วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : อาเซียน (ASEAN)

              สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อังกฤษ: Association of South East Asian Nations) หรือ อาเซียน เป็นองค์กรทางภูมิรัฐศาสตร์และองค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ มีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า อาเซียนมีพื้นที่ราว 4,435,570 ตารางกิโลเมตร มีประชากรราว 590 ล้านคนในปี พ.ศ. 2553 จีดีพีของประเทศสมาชิกรวมกันคิดเป็นมูลค่าราว 1.8 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นลำดับที่ 9 ของโลกเรียงตามจีดีพี มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ
                อาเซียนมีจุดเริ่มต้นจากสมาคมอาสา ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2504 โดยไทย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ แต่ได้ถูกยกเลิกไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2510 ได้มีการลงนามใน "ปฏิญญากรุงเทพ" อาเซียนได้ถือกำเนิดขึ้นโดยมีรัฐสมาชิกเริ่มต้น 5 ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือในการเพิ่มอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม วัฒนธรรมในกลุ่มประเทศสมาชิก และการธำรงรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค และเปิดโอกาสให้คลายข้อพิพาทระหว่างประเทศสมาชิกอย่างสันติ  หลังจาก พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา อาเซียนมีรัฐสมาชิกเพิ่มขึ้นจนมี 10 ประเทศในปัจจุบัน กฎบัตรอาเซียน ได้มีการลงนามเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2551 ซึ่งทำให้อาเซียนมีสถานะคล้ายกับสหภาพยุโรปมากยิ่งขึ้นเขตการค้าเสรีอาเซียนได้เริ่มประกาศใช้ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2553 และกำลังก้าวสู่ความเป็นประชาคมอาเซียน ซึ่งจะประกอบด้วยสามด้าน คือประชาคมอาเซียนด้านการเมืองและความมั่นคง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558

วัตถุประสงค์ ในการก่อตั้ง
1. เพื่อร่วมมือช่วยเหลือกันในการพัฒนาความเจริญทางเศรษฐกิจ และความก้าวหน้าทางสังคม วัฒนธรรมของประเทศสมาชิก
2. เพื่อส่งเสริมสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
3. เพื่อให้ความร่วมมือในการส่งเสริมด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การค้าและการคมนาคมขนส่ง
4. เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันทางด้านการศึกษา อาชีพ วิทยาการ และ การบริหาร
สัญลักษณ์



        สัญลักษณ์อาเซียน คือ ต้นข้าวสีเหลือง 10 ต้นมัดรวมกันไว้ หมายถึงประเทศสมาชิกรวมกันเพื่อมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและความก้าวหน้า สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ และ สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง

แผนที่ของภูมิภาคASEAN
สำนักงานเลขาธิการ อยู่ที่กรุงจาร์กาตาร์ ประเทศอินโดนีเชีย
เลขาธิการอาเซียน คนปัจจุบัน (ข้อมูล ณ ปี 2009)  :  ดร. สุรินทร์ พิศสุวรรณ (ไทย)


ความร่วมมือทางการเมือง
            อาเซียนตระหนักดีว่า ภูมิภาคที่มีสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง และความเป็นกลางจะเป็นพื้นฐานสำคัญที่ส่งเสริมการพัฒนาประเทศให้เจริญรุดหน้า จึงได้ร่วมกันสร้างประชาคมอาเซียนให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศ และสร้างเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันในระหว่างประเทศสมาชิก ผลงานที่สำคัญที่ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ คือสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือกันในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia: TAC ) การประกาศให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นเขตแห่งสันติภาพ เสรีภาพ และความเป็นกลาง (Zone of Peace, Freedom and Neutrality: ZOPFAN ) การก่อตั้งการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ASEAN Regional Forum: ARF ) และสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia Nuclear Weapon-Free Zone Treaty: SEANWFZ

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
            ปรากฏการณ์ของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในภูมิภาคต่างๆ ของโลก และการแข่งขันทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้อาเซียนตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องรวมตัวกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อปรับแนวการดำเนินนโยบายของตนให้สอดคล้องและเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ในปี 2535 อาเซียนจึงได้ตกลงจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน(ASEAN Free Trade Area: AFTA ) ขึ้น เพื่อที่จะส่งเสริมการค้าระหว่างกัน โดยการลดภาษีศุลกากรให้แก่สินค้าส่งออกของกันและกัน และดึงดูดการลงทุนจากภายนอกภูมิภาคให้เข้ามาลงทุนในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น เขตการค้าเสรีอาเซียนนี้จะบรรลุผลสมบูรณ์สำหรับสมาชิก 6 ประเทศแรกในปี 2546 ตามด้วยเวียดนามในปี 2549 ลาวและพม่าในปี 2551และกัมพูชาในปี 2553 นอกจากนี้ อาเซียนยังได้มีมาตรการต่างๆ ในการส่งเสริมการค้าการลงทุน และความร่วมมือกันในด้านอุตสาหกรรม การเงินและการธนาคาร และการบริการระหว่างกัน ที่สำคัญ ได้แก่ โครงการความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมอาเซียน(ASEAN Industrial Cooperation: AICO ) และ เขตการลงทุนอาเซียน (ASEAN
Investment Area: AIA ) เป็นต้นนอกจากนี้ เพื่อให้อาเซียนเติมโต มีความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ และมีความมั่งคั่งร่วมกัน อาเซียนได้มีข้อริเริ่มเพื่อการรวมตัวของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration: IAI ) ขึ้น เพื่อที่จะลดช่องว่างทางการพัฒนาระหว่างสมาชิกเก่าและใหม่ของอาเซียนด้วย
ไทยกับอาเซียน
           ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 5 ของสมาชิกผู้ก่อตั้งและเป็นจุดกำเนิดของอาเซียน ไทยมีบทบาทอย่างแข็งขันในกิจกรรมของอาเซียนตลอดมา รวมทั้งยังมีส่วนผลักดันให้อาเซียนมีโครงการความร่วมมือในด้านต่างๆ ที่ทันการณ์และสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ระหว่างประเทศ อาทิ การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน การประชุมอาเซียนว่าด้วยความ
         ร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก สนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในขณะเดียวกันอาเซียนก็มีความสำคัญต่อประเทศไทยโดยนอกจากจะสร้างพันธมิตรและความเป็นปึกแผ่น ตลอดจนเสถียรภาพและสันติภาพในภูมิภาคแล้ว ยังช่วยเพิ่มอำนาจต่อรองในการเจรจาระหว่างประเทศ และร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาข้ามชาติ และการพัฒนาขั้นพื้นฐานต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนั้น ความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมภายในอาเซียนได้เปิดโอกาสให้มีการขยายตัวด้านการค้าและการลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งนำผลดีมาสู่เศรษฐกิจของประเทศไทยและของประเทศสมาชิกอาเซียนโดยส่วนรวม
ความสัมพันธ์กับประเทศไทย
1. ประเทศไทยได้รับสิทธิพิเศษทางด้านการค้า ด้วยการได้ลดหย่อนอัตราภาษีศุลกากร
2. ด้านอุตสาหกรรม ไทยได้รับสิทธิในการผลิตเกลือหิน และโซดาแอช ตัวถังรถยนต์
3. ด้านการธนาคาร จัดตั้งบรรษัทการเงินของอาเซียน จัดตั้งคณะกรรมาธิการว่าด้วยการประกันภัยแห่งอาเซียน
4. ด้านการเกษตร การสำรองอาหารเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โครงการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ โครงการปลูกป่า
5. ด้านการเมือง สมาชิกของอาเซียนช่วยแบ่งเบาภาระของประเทศไทยเกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพ
6. ด้านวัฒนธรรม มีโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศสมาชิก ทำให้แต่ละประเทศมีความเข้าใจดีต่อ  กัน
               ประเทศไทยมีบทบาทเชิงรุกทั้งในแง่การก่อตั้งและการพัฒนาให้อาเซียนเป็นองค์กรที่มีความสำเร็จ เพื่อให้เป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญของภูมิภาคนี้ ในส่วนของการก่อตั้ง ไทยเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียนในปี พ.ศ. 2510 ในส่วนของการพัฒนา ไทยยังมีบทบาทที่สำคัญ ดังนี้
              1.มีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพในกัมพูชา 
              2. การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area) ในปี พ.ศ. 2535 
              3.  ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเซีย-แปซิฟิก หรือ ARF- ASEAN     Regional Forum ซึ่งเป็นเวทีที่ใช้พูดคุยปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค ในปี พ.ศ. 2537 
              4. ความริเริ่มเชียงใหม่และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อบรรเทาผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี พ.ศ. 2540
ลักษณะภูมิศาสตร์
ในปัจจุบัน สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประกอบด้วยประเทศสมาชิกจำนวน 10 ประเทศ คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 4.5 ล้านตารางกิโลเมตร และมีประชากรประมาณ 590 ล้านคน (ข้อมูลในปี พ.ศ. 2553) ยอดเขาที่สูงสุดในภูมิภาค คือ ยอดเขาข่ากาโบราซีในประเทศพม่า ซึ่งมีความสูง 5,881 เมตร และมีอาณาเขตติดต่อกับจีน อินเดีย บังคลาเทศ
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีสภาพภูมิอากาศแบบร้อนชื้น อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 27-36 °C  พืชพรรณธรรมชาติเป็นป่าฝนเขตร้อน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของโลก ป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ ป่าสน ป่าหาดทรายชายทะเล ป่าไม้ปลูก มีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ คือ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง สับปะรด ยางพารา ปาล์มน้ำมันและพริกไทย

ไฟล์:ASEAN HQ 1.jpg
          สำนักงานเลขานุการอาเซียน ที่ประเทศอินโดนีเซีย
               
              ไฟล์:ASEAN Flags.jpg
                                 ธงประเทศต่างๆ ในอาเซียน




วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พระธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร

...........ความเชื่อเรื่องพระธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดนี้ ไม่ใช่ข้อวัตรปฏิบัติหรือปรากฏในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นคติความเชื่อดั้งเดิมของชาวล้านนา ความเชื่อนี้จะมีมาตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏ พบว่ามีบันทึกอยู่ในตำราพื้นเมืองโบราณ สรุปใจความได้ว่า ก่อนที่วิญญาณจะมาปฏิสนธิในครรภ์ของผู้เป็นมารดานั้น วิญญาณจะลงมา ชุธาตุ ซึ่งหมายถึงการที่ดวงวิญญาณจะลงมาพักอยู่ที่เจดีย์แห่งใดแห่งหนึ่ง โดยมี ตั๋วเปิ้ง (สัตว์ประจำนักษัตร) พามาพักไว้ และเมี่อได้เวลา ดวงวิญญาณก็จะเคลื่อนจากพระเจดีย์ ไปสถิตอยู่บนกระหม่อมของผู้เป็นบิดาเป็นเวลา 7 วัน ก่อนที่จะเคลื่อนเข้าสู่ครรภ์ของมารดา และเมื่อเสียชีวิตลงแล้ว ดวงวิญญาณก็จะกลับไปพักอยู่ที่เจดีย์นั้นๆตามเดิม
...........นดังนั้น บุคคลซึ่งเกิดในปีนักษัตรใดก็ตาม สมควรที่จะหาโอกาสไปกราบไหว้พระธาตุประจำปีเกิดของตน ให้ได้อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นมงคลแก่ชีวิต มีอานิสงส์สูงและจะทำให้มีอายุยืนนาน รวมถึงเชื่อว่าหากสิ้นชีพไป ดวงวิญญาณจะได้กลับไปยังพระธาตุองค์นั้น ไม่ต้องเร่ร่อนไปในทุคคติภพอื่นๆ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้เองที่แพร่หลายไปสู่หลายๆพื้นที่ของประเทศ ก่อให้เกิดคติความเชื่อเช่นเดียวกันนี้ แต่จะแตกต่างกันบ้าง ในส่วนของเจดีย์ประจำปีนักษัตรต่างๆ อีกทั้งยังพบว่ามีคติความเชื่อเรื่องพระธาตุประจำวันเกิด ซึ่งเป็นเจดีย์ที่อยู่ในเขตจังหวัดนครพนมเพียงจังหวัดเดียวอีกด้วย
...........นเมื่อพิจารณาถึงความเชื่อเรื่องนี้แล้ว ถือได้ว่าเป็นความชาญฉลาดของบรรพชนชาวล้านนา ที่สอนให้ลูกหลานมีความเคารพในพระรัตนตรัย และเหตุที่ให้นับถือพระเจดีย์องค์ใดองค์หนึ่งเป็นพิเศษ อาจเป็นไปได้ว่า การเดินทางไปสักการะพระเจดีย์แต่ละองค์ในสมัยโบราณนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่ เนื่องจากการเดินทางที่ยากลำบาก จำเป็นต้องใช้ความวิริยะและอุตสาหะอย่างสูง ดังนั้นการได้ไปกราบไหว้พระธาตุเจดีย์แม้เพียงองค์ใดองค์หนึ่ง ย่อมก่อให้เกิดความชื่นอกชื่นใจแก่สาธุชนผู้มีความมุ่งมั่นในการเดินทางไปกราบไหว้ ภาพพระธาตุเจดีย์ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า จะก่อให้เกิดความปีติสุขและความอิ่มอกอิ่มใจเอ่อท้น ประทับติดตรึงตราอยู่ภายในใจ เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายถึงกาละแตกดับไปตามธรรมชาติ จิตก่อนตายจะไขว่คว้าหาบุญกุศลที่เคยทำมา เมื่อนั้น ภาพการไปกราบไหว้พระธาตุเจดีย์ และความรู้สึกสุขใจในบุญกุศลจะปรากฏสว่างไสวในจิต ซึ่งจะเป็นเหตุปัจจัยให้ไปสู่สุคติภพได้โดยไม่ยากนัก
พระธาตุเจดีย์ประจำปีนักษัตร
คนเกิดปีใจ้ [ปีชวด นักษัตรหนู ธาตุน้ำ]
พระธาตุศรีจอมทอง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 
ประดิษฐาน :: พระทักษิณโมลีธาตุ(กระดูกกระหม่อมเบื้องขวา)
คำบูชาพระธาตุ
นะโมพุทธายะ นะมามิ ติโลกะโมลี โลหะกูเฏ ปะติฏฐิตัง ปูชิตัง สัพพะโลเกหิ กิตฺติมันตัง มะโนหะลัง อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ อังคะวะหะเย ปุเรระมะเน โกวิลา ลัคฺคะปัพพะตา สะหิเหมะคูหา คัพฺเภ ทักขิณะโมลี ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะทาฯ
คนเกิดปีเป้า [ปีฉลู นักษัตรวัว ธาตุดิน]พระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง 
ประดิษฐาน :: พระเกศาธาตุ พระธาตุส่วนพระนลาฏ(หน้าผาก) และพระศอ(ลำคอ)
คำบูชาพระธาตุ
ยาปาตุภูตา อะตุลานุภาวาจีรัง ปะติฏฐาสัมภะ กัปปะปุเร เทเวนะคุตตา อุตตะราภิทัย ยานะมามิหันตัง วะระชินะธาตุง
คนเกิดปียี [ปีขาล นักษัตรเสือ ธาตุไม้]พระธาตุช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ 
ประดิษฐาน :: พระเกศาธาตุ และ พระบรมธาตุข้อศอกข้างซ้าย
คำบูชาพระธาตุ
โกเสยัง ธะชัคคะ ปัพพะเต พุทธะธาตุ ปะติฏฐิตัง ปะสันเนนะ อะหังวันทามิ สัพพะทา อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส
คนเกิดปีเหม้า [ปีเถาะ นักษัตรกระต่าย ธาตุน้ำ]พระธาตุแช่แห้ง อ.ภูเพียง จ.น่าน
ประดิษฐาน :: พระเกศาธาตุ และ พระบรมธาตุข้อพระหัตถ์ข้างซ้าย
คำบูชาพระธาตุ
ปายาตุภูตา อะตุรานุภาวะจีรัง ปะติฏฐิตา นันทะกัปปัฏฐานะปุระ เทเวนะคุตตา วะระพุทธาตุจิรัง อะหังวันทามิ ตังชินะธาตุง เสตะฐานะ อะหังวันทามิ ทูระโตฯ
คนเกิดปีสี [ปีมะโรง นักษัตรพญานาค ธาตุดิน]พระเจดีย์วัดพระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 
ประดิษฐาน :: พระบรมสารีริกธาตุ
คำบูชาพระธาตุ
อิติปะวะระสิหิงโต อุตตมะยะโสปิ เตโช ยัตถะ กัตถะ จิตโตโส สักกาโร อุปาโท สะกาละพุทธะ สาสะธัง โชตะยันโตวะ ทีโป สุระนะเรหิ มะหิโต ธะระมาโนยะ พุทโธติ
หมายเหตุ :: บางตำรากล่าวว่าองค์พระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) คือพระเจดีย์ประจำปีมะโรง แต่อย่างไรก็ดี ทั้งองค์พระสิงห์และพระเจดีย์วัดพระสิงห์ ต่างก็ประดิษฐานอยู่ที่วัดเดียวกัน
คนเกิดปีใส้ [ปีมะเส็ง นักษัตรงูเล็ก ธาตุน้ำ]โพธิบัลลังก์ วิหารมหาโพธิเจดีย์ รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
ประดิษฐาน :: พระแท่นวัชรอาสน์
คำบูชาพระธาตุ
ปฐมัง โพธิปัลลังกัง ทุติยัง อนิมมิสสะกัง ตะติยัง จังกะมะเสฏฐัง จตุตถัง ระตะนะฆะรังปัณจะมัง อะชะปาละนิโครธังฉัฏฐัง ราชายะตะนัง สัตตะมัง มุจจะลินทัง อะหัง วันทามิ ทูระโต
หมายเหตุ :: เนื่องจากสถานที่ประดิษฐานโพธิบัลลังก์อยู่ไกล นอกเขตพระราชอาณาจักร จึงอนุโลมเป็นพระเจดีย์ที่มีลักษณะใกล้เคียงวิหารมหาโพธิเจดีย์ ได้แก่ พระเจดีย์วัดโพธารามมหาวิหาร จ.เชียงใหม่ หรือต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ปลูกตามวัดทั่วไปก็ได้
คนเกิดปีสะง้า [ปีมะเมีย นักษัตรม้า ธาตุไฟ] พระธาตุเจดีย์ชเวดากอง กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า
ประดิษฐาน :: พระเกศาธาตุ
คำบูชาพระธาตุ
พุทโธพุทธะ หัตถะฏะฐิ พุทธะเจติยะ คันธะวะรัง สะวาตะถิยัง อะหังวันทามิ สัพพะทา

หมายเหตุ :: เนื่องจากพระเกศธาตุเมืองตะโก้ง (พระธาตุเจดีย์ชเวดากอง) อยู่ไกล นอกเขตพระราชอาณาจักร จึงอนุโลมเป็นพระเจดีย์ที่มีลักษณะใกล้เคียง ได้แก่ พระธาตุชเวดากอง วัดพระบรมธาตุ จ.ตาก แทนได้
คนเกิดปีเม็ด [ปีมะแม นักษัตรแพะ ธาตุดิน]
พระธาตุดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ประดิษฐาน :: พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสุโขทัย ซึ่งองค์พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมา ได้กระทำปาฏิหาริย์ แบ่งเพิ่มจาก 1 องค์ เป็น 2 องค์ ต่อหน้าพระพักตร์พระเจ้ากือนา พระบรมสารีริกธาตุองค์ที่แสดงปาฏิหาริย์แบ่งมาเพิ่มนั้น ได้อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ พระเจดีย์วัดสวนดอก ส่วนองค์เดิมได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ที่นี่
คำบูชาพระธาตุ
สุวัณณะเจติยัง เก สะวะระมัตถะลุงคัง วิรัญญะธาตุง สุเทวะนามะกัง นะระเทเวหิ สัพพะปูชิตัง อะหังวันทามิ สัพพะทา

 คนเกิดปีสัน [ปีวอก นักษัตรลิง ธาตุดิน]พระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
ประดิษฐาน :: พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก)
คำบูชาพระธาตุ
ปันนะศิริสะมิง ปัพพะเต อุตะมังธาตุ เหทะยัง วะละจิตตัง เสฐะวะรัง อะหังวันทามิ สัพพะทา
หมายเหตุ :: พระธาตุพนมเป็นพระธาตุเจดีย์ประจำปีเกิดเพียงองค์เดียว ที่ประดิษฐานอยู่ในภาคอิสานของประเทศไทย และถือเป็นพระธาตุเจดีย์ประจำคนเกิดวันอาทิตย์อีกด้วย
คนเกิดปีเร้า [ปีระกา นักษัตรไก่ ธาตุเหล็ก]พระธาตุหริภุญชัย อ.เมือง จ.ลำพูน 
ประดิษฐาน :: พระบรมธาตุส่วนกระหม่อม หน้าอก นิ้วพระหัตถ์ พระเกศาธาตุ และพระธาตุย่อยอีกเต็มบาตรหนึ่ง
คำบูชาพระธาตุ
สุวัณณะเจติยัง หะริภุญชะยัฐฐังวะระ โมลีธาตุรัง อุฬเสฏฐัง สะหะอังคุละผัฏฐัง กัจจายะโน นามิตปัตตะ ปุรังสิเนนะ เมยหัง ปะนะนามิธาตุง สิระสา นะมามิ อะหังวันทามิ ทูระโตฯ
คนเกิดปีเส็ด [ปีจอ นักษัตรหมา ธาตุดิน]พระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ประดิษฐาน :: พระบรมธาตุเขี้ยวแก้วเบื้องขวาบน พระจุฬาโมลี(มวยผม)
คำบูชาพระธาตุ
ตาวะติงสาปุเร รัมเม เกสา จุฬามณี สรีระปัพพะตา ปูชิตา สัพพะเทวานังตัง สิระสา ธาตุ มุตตะมังอะหัง วันทามิ สัพพะทา
หมายเหตุ :: ตำรากล่าวว่าพระเจดีย์ประจำปีจอคือ พระเกศแก้วจุฬามณีเจดีย์ ที่ประดิษฐานอยู่บนสวรรค์ ทำให้มนุษย์ทั่วไปไม่สามารถไปบูชาด้วยตนเองได้ จึงอนุโลมเป็นพระเจดีย์ที่มีชื่อพ้องกัน คือ พระเจดีย์วัดเกตการาม หรือพระธาตุอินทร์แขวน ประเทศพม่าแทนได้
คนเกิดปีใค้ [ปีกุน นักษัตรช้าง หรือหมู ธาตุน้ำ]พระธาตุดอยดุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย 
ประดิษฐาน :: พระบรมธาตุส่วนพระศอ และพระรากขวัญ(กระดูกไหปลาร้า) เบื้องซ้าย
คำบูชาพระธาตุ
อิมัสสะมิง ภัทกะกัปเป จะตุพุทธา พุชูฌะติตะวา กะกุสะนูระ โกนาคะมะนะ กัสสะปะ โคตะมะราชะคะเห จะระติปิณะฑายะ มิถิลายะนะคะเรสิ จะรัตติ ปิณะฑายะ อะตะตีตา พุทธาเน อิมัสะมิง ปัพพะตาคิริ ปะทะกังนะสิทิตะวา เมตเตยยะ อะนาคะเต จะระติปิณะฑายะ ราชะคะเห อิมัสะมิง ฐาเนนะสิทิสิริ สุภปะวะรังมะคะโล ตะโมลากะถามุนิราชะ สาตะระนะมามิหันตัง วะระชินะธาตุง อะหังวันทามิ สัพพะทานะตัง วะชิระธาตุโย อะระหังวันทามิ สัพพทา
หมายเหตุ :: บางตำรากล่าวต่างไปว่า พระธาตุดอยตุง เป็นพระธาตุประจำคนเกิดปีกุนข้างขึ้น สำหรับคนเกิดข้างแรม พระธาตุประจำปีเกิดคือ พระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน

ขอบคุณ

วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554

10 อันดับ สัตว์ หายากที่สุดในโลก

10 Red Wolf 
หมาป่าชนิดนี้มีขนาดเล็ก และ ผอมกว่าหมาป่าสีเทา พื้นที่ที่มันอาศัยอยู่มีขนาดถึง 1.7 ล้านเอเคอร์นับจาก ฟอลริด้า และเท็กซัส ถึง Calorina(ใหญ่กว่าป่าร้อยเอเคอร์ในหมีพูห์เป็นไหนๆ)ตอนเหนือในปี 1980 มีเพียง 20 ตัวเท่านั้นที่ไม่ใช่พันธุ์ทางปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 207 ตัว และ 100 กว่าตัวอยู่ในพื้นที่ป่า
 

9 Iberian Lynx 
มันเป็นหนึ่งในแมว(?)ที่ใกล้สูญ พันธุ์มากที่สุด 36 สายพันธุ์ มันถูกฆ่าด้วยกับดักที่ใช้ดักกระต่ายบ่อยๆ หรือไม่ก็ ถูกรถชน รัฐบาลสเปนศึกษาในปี 2005 พบว่าเหลือเพียง 103 ตัวเท่านั้นลดลงมาจาก 400 ตัวในปี 2000 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก
8 Tamaraw (Dwarf Water Buffalo) 
พบใน เกาะmindoro ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ในปี 1900 มันมีจำนวนถึง 10000 ตัว 120 ตัวในปี 1975 370 ตัวในปี 1987 ในปี 2002 เหลือเพียง 30 ถึง 200 ตัวเท่านั้นปัจจุบันเป็นสัตว์สงวนและห้ามล่าโดยมีกฏหมายลงโทษอย่างรุนแรง
7 Northern Hairy-nosed Wombat 
ในศตวรรษที่ 19 วอมแบตชนิดนี้พบได้ใน New South Wales และ Victoria แต่ปัจจุบันพบในอุทยานเล็กๆใกล้กับ Epping Forest Station ในรัฐควีนแลนด์ ออสเตรเลีย ซึ่งถูกสงวนไว้ ปัจจุบันเหลือประมาน 133 ตัวเท่า นั้น รัฐบาลออสเตรเลียได้ให้งบในการขยายพันธุ์ไว้ 250000 เหรียญต่อปี
6 Hispid hare 
หรืออีกชื่อหนึ่ง bristly rabbit พบบริเวณภูเขาหิมาลัย หูสั้น ขาหน้าและขาหลังมีขนาดไม่ต่างกันมาก เหลือเพียงประมาณ 100 กว่าตัวเท่าที่พบ
5 Javan Rhino 
แรดชนิดหนึ่งเหลือเพียงไม่ถึง 60 ตัวพบได้ในอินโดนิเซียและเวียดนาม มันถูกผู้คนในท้องถิ่นล่าเพื่อนำเขาของมันไปขาย หรือทำยา มันเสี่ยงต่อโรคระบาดมาก จึงเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่ง
 
4 Seychelles Sheath-tailed Bat
 ค้างคาวชนิดนี้เหลือเพียงไม่ถึง 100 ตัวในโลก พบในเกาะ seychelles ในหมู่เกาะมาดากัสการ์ ปัจจุบันต้องการการสำรวจวิจัยว่าพวกมันมีการกินอยู่อย่างไร เราต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะเพิ่มจำนวนของมัน ด้วยการมุ่งจะเพิ่มจำนวนของมันอย่างหนัก ในระยะยาวอาจเพิ่มได้ถึง 500 ตัว
3 The Vancouver Island Marmot 
มาร์มอทชนิด นี้พบในภูเขาสูงของเกาะแวนคูเวอร์ เคยมีจำนวนต่ำกว่า 75 ตัว ในปี 2005ได้รับการเพาะพันธุ์จนมีจำนวน 150 ตัว(รวมตัวอ่อน) เป้าหมายที่คาดสูงสุดคือการจะทำให้มันมีจำนวนถึง 400 ตัว
2 Baiji (Yangtze River Dolphin) 
ปลาโลมาชนิดหนึ่ง สัตว์ที่หายากที่สุดในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ปัจจุบันเหลือเพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้นจะพบในแม่น้ำหรือทะเลสาบที่น้ำใส สะอาดเท่านั้นสาเหตุของการที่หลงเหลือน้อยมาจากความสกปรกของแหล่งน้ำ การประมง อุปกรณ์จับสัตว์น้ำ
1 The Pinta Island tortoise 
หนึ่งในเพียงไม่กี่ชนิดของเต่ายักษ์แห่งกาลาปากอส สัตว์ที่หายากที่สุดในโลกปัจจุบันเหลือเพียง 1 ตัวเท่านั้น เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเกาะกาลาปากอส อีกทั้งยังมีประกาศว่าจะมอบเงินจำนวน 10000$ แก่ผู้พบเต่าตัวเมียชนิดนี้

ที่มา : TOPTENTHAILAND.Com

 


 



วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

การศึกษาแหล่งเรียนรู้ ปี 2554

โรงเรียนเสนาเคราะห์ โดย นักเรียนสายชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้ไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ เมื่อ 17 มิถุนายน 2554 ดังนี้
           1. แหล่งโบราณคดี บ้านปราสาท ต.ธารปราสาท อ.โนนสูง จ.นม.
           2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ(พิมาย)
           3. อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย อ.พิมาย จ.นม.